
Damus


satuser
Recent notes

⚫️ : Elon Musk ได้พูดถึงกัญชาและผลกระทบต่อสมองในหลายโอกาส โดยส่วนใหญ่เขามักแสดงทัศนคติที่ค่อนข้างระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้กัญชา โดยเฉพาะในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ นี่คือบางส่วนของสิ่งที่เขาเคยพูด: 1 ผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน: Musk เคยกล่าวไว้ว่าเขาไม่คิดว่ากัญชาดีต่อประสิทธิภาพการทำงาน (productivity) ตัวอย่างเช่น ในระหว่างการสัมภาษณ์ในพอดแคสต์ Joe Rogan Experience เมื่อปี 2018 ซึ่งเขาได้ลองสูบกัญชาระหว่างออกอากาศ เขาบอกว่า “ผมไม่พบว่ามันดีต่อประสิทธิภาพการทำงานมากนัก” และยังเสริมว่าเขาไม่ค่อยสูบกัญชาเพราะมันไม่เหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้ความคิดหนัก 2 ทัศนคติส่วนตัว: Musk มักพูดถึงกัญชาในลักษณะที่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันในชีวิตส่วนตัว เขาเคยบอกในพอดแคสต์ Full Send เมื่อปี 2022 ว่า “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องสูบกัญชายังไง ดูผมสิ ผมไม่มีทักษะการสูบกัญชาเลย” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่ใช้กัญชาเป็นประจำหรือให้ความสนใจมากนัก 3 เปรียบเทียบกับสมองและการใช้ชีวิต: แม้ว่า Musk จะไม่ได้พูดถึงผลกระทบของกัญชาต่อสมองโดยตรงในเชิงวิทยาศาสตร์บ่อยครั้ง แต่เขาเคยเปรียบเทียบการทำงานของสมองตัวเองว่าเหมือน “ ” (a never-ending explosion) ในพอดแคสต์กับ Joe Rogan ซึ่งบ่งบอกว่าเขามองสมองของตัวเองว่าต้องการความชัดเจนและโฟกัสสูง และกัญชาอาจไม่สอดคล้องกับสภาพจิตใจแบบนั้น 4 มุมมองด้านกฎหมายและสังคม: Musk ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับความไม่สมเหตุสมผลของกฎหมายกัญชาในสหรัฐฯ เช่น ในทวีตเมื่อปี 2020 เขาเขียนว่า “การขายกัญชาเปลี่ยนจากคดีอาญาร้ายแรงไปเป็นธุรกิจจำเป็น (ที่เปิดได้ช่วงโควิด) ในหลายพื้นที่ของอเมริกา แต่ยังมีคนติดคุกอยู่ มันไม่สมเหตุสมผลและไม่ถูกต้อง” แม้จะวิจารณ์กฎหมาย เขาก็ไม่ได้ออกตัวสนับสนุนการใช้กัญชาในแง่ส่วนตัวอย่างชัดเจน โดยรวมแล้ว Musk ดูเหมือนจะมองกัญชาในแง่ที่เป็นกลางถึงลบเล็กน้อยในบริบทของการทำงานและสมอง โดยเขาให้ความสำคัญกับการรักษาความสามารถในการคิดและสร้างนวัตกรรม ซึ่งเขาคิดว่ากัญชาอาจไม่ช่วยเสริมในด้านนี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อความไม่เป็นธรรมในระบบกฎหมายที่เกี่ยวกับกัญชาด้วย ภาพ : /prompt สร้างภาพประกอบของบทสนทนานี้ตามแบบฉบับศิลปะของคุณเลย https://image.nostr.build/1338371d02008e69c48db9b943dc0a498bddd7597cc45d6ad8fc3ece70e94b40.jpg

💬 : การเปรียบเทียบระบบ ECS กับระบบคอมพิวเตอร์และ LLM มีความน่าสนใจในแง่ของการทำงานที่คล้ายคลึงกันหลายด้าน: ระบบการสื่อสารและควบคุม: 1. การส่งสัญญาณ: - ECS: ใช้ endocannabinoids เป็นตัวส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ - คอมพิวเตอร์: ใช้สัญญาณไฟฟ้าและข้อมูลดิจิทัล - LLM: ใช้การส่งต่อข้อมูลผ่าน neural networks 2. การประมวลผล: - ECS: ประมวลผลแบบ parallel processing ผ่านตัวรับหลายตำแหน่ง - คอมพิวเตอร์: CPU/GPU ประมวลผลหลายงานพร้อมกัน - LLM: ประมวลผลข้อมูลผ่านหลาย layers พร้อมกัน การปรับตัวและการเรียนรู้: 1. ความยืดหยุ่น: - ECS: ปรับการทำงานตามสภาวะร่างกาย - คอมพิวเตอร์: ปรับประสิทธิภาพตามการใช้งาน - LLM: ปรับปรุงผลลัพธ์จากข้อมูล training 2. การจดจำ: - ECS: มีผลต่อการสร้างความจำระยะยาว - คอมพิวเตอร์: เก็บข้อมูลใน memory/storage - LLM: เก็บ patterns จากการ training ระบบการควบคุมและป้องกัน: 1. การรักษาสมดุล: - ECS: รักษา homeostasis ของร่างกาย - คอมพิวเตอร์: ระบบ monitoring และ maintenance - LLM: มีกลไก self-attention และ regulation 2. การป้องกัน: - ECS: ระบบภูมิคุ้มกันและการซ่อมแซม - คอมพิวเตอร์: antivirus และ security systems - LLM: มีระบบ safety filters และ bias control ข้อจำกัดและความท้าทาย: 1. การใช้ทรัพยากร: - ECS: ต้องการพลังงานและสารตั้งต้น - คอมพิวเตอร์: ต้องการไฟฟ้าและหน่วยความจำ - LLM: ต้องการพลังงานและ computing power สูง 2. ความผิดพลาด: - ECS: อาจเกิด dysregulation - คอมพิวเตอร์: bugs และ system errors - LLM: hallucinations และ biases การประยุกต์ใช้ร่วมกัน: 1. การวิจัยและพัฒนา: - ใช้ AI วิเคราะห์การทำงานของ ECS - พัฒนายาใหม่ผ่าน computational modeling - ใช้ LLM ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ 2. การรักษา: - ระบบ AI ช่วยวินิจฉัยความผิดปกติของ ECS - ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการให้ยา - LLM ช่วยวิเคราะห์ผลการรักษา แนวโน้มในอนาคต: 1. การบูรณาการ: - ผสมผสานความเข้าใจทั้งสามระบบ - พัฒนาการรักษาแบบ personalized - สร้างระบบ AI ที่เลียนแบบ ECS 2. นวัตกรรม: - การพัฒนา biocomputers - ระบบ AI ที่เข้าใจ biological systems - การรักษาโรคด้วย AI-assisted therapy การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างระบบเหล่านี้จะช่วยพัฒนาวิธีการรักษาและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต แต่ต้องคำนึงถึงความซับซ้อนและข้อจำกัดของแต่ละระบบด้วย

ทางนี้ก็จัด gift sats ให้พี่เนสเป็นของขวัญวันเกิดไปถือไว้ เพื่อให้มี skin in the game และจะได้ศึกษายาวๆ 🎁🥳🎂⚡️ กำลังสอบถามสมาชิกอยู่ว่า ถ้าเรียนแล้วได้ satoshi ด้วยจะเอาไหม พี่เนสบอก “น่าสนใจครับ..เดี๋ยวถามเพื่อนๆก่อน” สงสัยต้องพาเด็กๆไปใช้ bitcoin ที่ห้วยผึ้งสักแมทแล้วครับ ชุมนุม https://i.nostr.build/R11tBg1Mpcv7xARl.jpg